การเจิม

ลักษณะผู้สอนเทียมเท็จ

เพราะว่าบางคนได้แอบแฝงเข้ามาในหมู่ท่าน การลงโทษคนพวกนี้มีเขียนไว้นานแล้ว พวกเขาเป็นคนอธรรมที่ถือเอาพระคุณของพระเจ้าของเรามาบิดเบือนเป็นช่องทางทำความชั่วช้าลามก และได้ปฏิเสธพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นเจ้านายและองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราแต่องค์เดียว ยูดา 1:4 (2) ผู้ที่แฝงเข้ามาเป็นผู้สอนเทียมเท็จ คอยล่อลวงให้ผู้เชื่อหลงจากทางพระเจ้า จะมีลักษณะที่บ่งบอกได้ดังนี้ 1. เป็นคนอธรรม : เพราะท่าทีภายในเขาเป็นเช่นนั้น 2. บิดเบือนพระคุณของพระเจ้า ไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่พระเจ้าเมตตาต่อจิตวิญญาณเรา แต่ทำให้ผู้เชื่อทำผิดบาปอย่างแนบเนียน 3. ปฏิเสธพระเยซู : ข้อนี้สำคัญมาก ผู้สอนเทียมเท็จพวกนี้จะไม่สามารถบอกได้ว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าที่มาไถ่บาปให้มนุษย์ แต่จะบิดเบือน เบี่ยงเบนประเด็นไปเรื่องอื่น พวกเขาไม่ต้องการให้ความรอดไปถึงใคร เพราะมันรู้ปลายทางว่าจะต้องไปไหน เราต้องคอยสังเกตฝ่ายวิญญาณ ต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดพระวิญญาณเพื่อปกป้องเราจากคนเหล่านี้

ผู้สอนเทียมเท็จแฝงตัวเข้ามา

เพราะว่าบางคนได้แอบแฝงเข้ามาในหมู่ท่าน การลงโทษคนพวกนี้มีเขียนไว้นานแล้ว พวกเขาเป็นคนอธรรมที่ถือเอาพระคุณของพระเจ้าของเรามาบิดเบือนเป็นช่องทางทำความชั่วช้าลามก และได้ปฏิเสธพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นเจ้านายและองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราแต่องค์เดียว ยูดา 1:4 ยูดาห์กล่าวถึงคนบางนที่แอบแฝงเข้ามา ซึ่งพระวจนะในหลายพระธรรมได้กล่าวถึงคนกลุ่มนี้เอาไว้ เช่นใน มธ.7:15 “ท่านทั้งหลายจงระวังพวกผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จ ที่มาหาท่านนุ่งห่มเหมือนแกะ แต่ภายในนั้นร้ายกาจเหมือนหมาป่า ไม่น่าแปลกใจที่จะมีคนแอบแฝงเข้ามาเช่นนี้ และพระวจนะได้กล่าวถึงการลงโทษคนเหล่านี้เอาไว้แล้วด้วยเช่นกัน ผู้สอนเทียมเท็จจะเข้ามาอย่างแนบเนียนมาก เหมือนหมาป่าที่สวมด้วยชุดคลุมเหมือนแกะ ดังนั้นถ้าเราไม่ฟังเสียงผู้เลี้ยงที่แท้จริงทุกวัน ถ้าเราไม่ใกล้ชิดพระวิญญาณบริสุทธิ์ สม่ำเสมอ เราก็อาจพลาดท่าได้เช่นกัน 2 ปต.2:1 กล่าวว่า ” แต่ว่าได้มีผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จเกิดขึ้นในชนชาตินั้น เช่นเดียวกับที่จะมีผู้สอนเท็จเกิดขึ้นในพวกท่าน ซึ่งจะลอบเอาลัทธินอกรีตอันจะให้ถึงความพินาศเข้ามาเสี้ยมสอน จนถึงกับปฏิเสธองค์เจ้านายผู้ได้ทรงไถ่พวกเขาไว้ ซึ่งจะนำความพินาศมาสู่พวกเขาเองอย่างรวดเร็ว ” เราต้องคอยสังเกต ว่าใครก็ตามที่ไม่พระนามพระเจ้า พระนามพระเยซู พระวิญญาณบริสุทธิ์ โดยเฉพาะคนที่ดูหมิ่นพระวิญญาณ จะโทษหนักมาก หรือคนที่สร้างความแตกแยก อย่างช้า ๆ เพื่อให้ชุมชนพระเจ้าหม่นหมอง และท้ายสุดคือคนที่นำให้ผู้เชื่อปฎิเสธทางของพระเจ้าเที่ยงแท้ ความบาปเหล่านี้จะถูกก็ตัวอย่างช้า ๆ และสำคัญที่สุด ตัวเราต้องคอยสำรวจตัวเราเองเสมอ เพื่อไม่เปิดช่องให้มารเข้ามาในชีวิตและล่อลวงคนอื่นได้

ยูดาย้ำเรื่องการต่อสู้ในเรื่องความรอดในพระเยซู

ท่านที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้าปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเขียนถึงท่านเรื่องความรอดที่เรามีร่วมกัน แต่ข้าพเจ้าเห็นว่า จำเป็นจะต้องเขียนวิงวอนท่านให้ต่อสู้เพื่อหลักความเชื่อที่ได้ทรงมอบให้กับพวกธรรมิกชนครั้งเดียวสำหรับตลอดไป ยูดา 1:3 (2) ยูดาได้ให้น้ำหนักถึงหลักความเชื่อในพระเยซูที่ต้องใส่ใจอย่างมาก ท่านเขียนเจาะจงไปยังผู้เชื่อแต่ละคนที่ได้รับความรอดจากความเชื่อในพระเยซูนี้ ที่จะต้องต่อสู้กับความเชื่อผิด  ๆ อย่างแข็งแรงและดุดัน เพื่อไม่ให้ความเชื่อผิด ๆ เหล่านั้นมาทำให้พระกิตติคุณหม่นหมองไป  เพราะความรอดนั้นเป็นพระคุณที่ได้มาเปล่า  ๆ ดังนั้นอาจทำให้บางคนไม่เห็นคุณค่า การที่ยูดาได้วิงวอนต่อผู้เชื่อย่างเจาะจงถึงการรักษาความเชื่อนี้ จึงมีผลต่อชีวิตฝ่ายวิญญาณของเราด้วยเช่นกัน เราต้องต่อสู้เพื่อรักษาจุดยืน ความเชื่อคริสเตียนอย่างแข็งขันที่สุด