เช้ามาอธิษฐาน

พระเยซูรักษาคนตาบอดแต่กำเนิด

การทรงรักษาคนตาบอดแต่กำเนิด (1) 1ขณะพระองค์เสด็จไปนั้น ทรงเห็นชายคนหนึ่งตาบอดแต่กำเนิด 2พวกสาวกของพระองค์ทูลถามพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ใครทำบาป คนนี้หรือพ่อแม่ของเขา เขาถึงเกิดมาตาบอด?” 3พระเยซูตรัสตอบว่า “ไม่ใช่คนนี้หรือพ่อแม่ของเขาที่ทำบาป แต่เขาเกิดมาตาบอดเพื่อให้พระราชกิจของพระเจ้าปรากฏในตัวเขา 4เราต้องทำพระราชกิจของผู้ทรงใช้เรามาเมื่อยังวันอยู่ กลางคืนอันเป็นเวลาที่ไม่มีใครทำงานนั้นกำลังใกล้เข้ามา 5ตราบใดที่เรายังอยู่ในโลก เราก็เป็นความสว่างของโลก” ยอห์น 9 : 1-4 เหตุการณ์ที่พระเยซูกำลังจะรักษาคนตาบอดแต่กำเนิดนี้ แตกต่างจากเหตุการณ์ที่พระเยซูรักษาคนตาบอดก่อนหน้านี้ พระเยซูได้ตอบสาวกที่ ถามว่า เหตุใด ชายคนนี้จึงตาบอดแต่กำเนิด พระเยซูได้ตอบอย่างชัดเจนว่า “ขาเกิดมาตาบอดเพื่อให้พระราชกิจของพระเจ้าปรากฏในตัวเขา” และเมื่อเราศึกษาต่อไปก็จะพบว่า ท่าทีของคนตาบอดคนนี้ เป็นที่พอพระทัยพระเจ้าและทำให้พระเจ้าได้รับเกียรติมากขึ้น 1. พระเจ้ารู้จักเราเป็นอย่างดี : พระเยซูทราบถึงการตอบสนองต่อการรักษาโรคของคนตาบอดว่าจะตอบสนองเช่นไร ซึ่งต่างจากคนตาบอดก่อนหน้านี้ สิ่งสำคัญคือเราต้องตอบสนองต่อทุกเหตุการณ์ 2. พระเจ้าอนุญาตให้บางเกิดขึ้นอย่างมีวัตถุประสงค์ : ดังที่พรเยซูได้ตอบแก่สาวกว่าการตาบอดแต่กำเนิดมาเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า ชาโลม การดำเนินชีวิตกับพระเจ้าปี 2020 ชีวิตอธิษฐาน ชีวิตในพระคริสต์ ชีวิตในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ใกล้ชิดสนิทสนมพระวิญญาณบริสุทธิ์ วันต่อวัน หน้าหลัก เติบโตในพระคริสต์ ติดสนิทพระวิญญาณ

พระเจ้าถอดซาอูลเพราะการไม่เชื่อฟัง

พระเจ้าถอดซาอูลเพราะการไม่เชื่อฟัง 1 ซามูเอล 13 หลายครั้งพระเจ้ามีบททดสอบมาถึงชีวิตของเรา เพื่อให้เราได้ตอบสนองตามแผนงานและน้ำพระทัยของพระองค์ แต่ถ้าเราตอบสนองตามใจปรารถนา ตามเนื้อหนังของเรา ก็อาจทำให้เราพลาดแผนงานอันดีเลิศของพระองค์ ไปได้ ดังที่ ซาอูลที่ได้รับการเจิมให้เป็นกษัตริย์คนแรกของอิสราเอล แต่เขาไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้า ที่ผ่านทางซามูเอล ในเรื่องเครื่องบูชา แม้ว่าดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ในสายตาของมนุษย์ แต่ในสายตาพระเจ้า ถือว่าเป็นการละเมิด การไม่เชื่อฟังอย่างรุนแรง และนำมาซึ่งการถอดถอนจากการเป็นกษัตริย์ของพระองค์ ฤทธิ์อำนาจฝ่ายวิญญาณมาจากพระบิดา เมื่อพระองค์ประทานและเจิมเราไว้แล้ว ก็อย่าให้เราขาดหรือละเลย สิทธิ์อันยิ่งใหญ่นี้ แต่จงเชื่อและวางใจที่จะกระทำตามทั้งสิ้น เพื่อเราจะไม่ขาดพระพรและเป็นที่ถวายเกียรตืแด่พระบิดาสูงสุด ชาโลม การดำเนินชีวิตกับพระเจ้าปี 2020 ชีวิตอธิษฐาน ชีวิตในพระคริสต์ ชีวิตในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ใกล้ชิดสนิทสนมพระวิญญาณบริสุทธิ์ วันต่อวัน หน้าหลัก เติบโตในพระคริสต์ ติดสนิทพระวิญญาณ

พระเยซูรักษาคนตาบอดที่เมืองเบธไซดา

การทรงรักษาคนตาบอดที่เมืองเบธไซดา 22พระองค์กับพวกสาวกจึงไปยังเมืองเบธไซดา มีบางคนพาคนตาบอดคนหนึ่งมาหาพระองค์ และทูลอ้อนวอนขอให้พระองค์ทรงสัมผัสคนนั้น 23พระองค์จึงทรงจูงมือคนตาบอดออกไปนอกหมู่บ้าน เมื่อทรงบ้วนน้ำลายลงที่ตาของคนนั้นและวางพระหัตถ์บนตัวเขาแล้ว พระองค์ตรัสถามว่า “ท่านเห็นอะไรบ้างหรือไม่?” 24คนนั้นเงยหน้าดูแล้วทูลว่า “ข้าพระองค์มองเห็นคนเหมือนต้นไม้เดินไปเดินมา” 25พระองค์จึงวางพระหัตถ์บนตาของเขาอีก แล้วเขาก็เพ่งดู และตาก็หายเป็นปกติ มองเห็นสิ่งต่างๆ ชัดเจน 26พระองค์จึงตรัสสั่งให้คนนั้นกลับไปที่บ้านของตนเองและทรงกำชับว่า “อย่าเข้าไปในหมู่บ้านนั้น” มาระโก 8 : 22-26 พระเยซูรักษาคนตาบอด ที่มีคนพามาและขอให้รักษาคนตาบอดนั้น พระวจนะไม่ได้กล่าวว่า คนตาบอดมีความปรารถนาที่จะหายโรค อาจเป็นไปได้ว่า เขาไม่รู้ว่าพระเยซูมาอยู่ในหมู่บ้านแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะได้พบพระเยซู เขาเองก็ไม่ได้อ้อนวอนขอการรักษาด้วยตัวเขาเอง แต่พระเยซูก็พาคนตาบอดนั้นออกมาจากหมู่บ้านและทำการรักษา และก็อาจเป็นไปได้ว่า เขาไม่ได้ร้องขอการหายโรคอย่างจริงจัง เหมือนคนป่วนอื่น ๆ ที่กระเสือกกระสนมาหาพระเยซู เพื่อจะเชื่อและรักการรักษา และสิ่งนั้นเป็นที่พอพระทัยพระเยซู คนตาบอดคนนี้แตกต่างไป พระวจนะไม่ได้กล่าวว่าเขาอยากหาย หรืออ้อนวอนพระองค์ให้เขาามองเห็น ดังนั้น การรักษาโรคของพระองค์ จึงอาจต้องกระทำการถึง สองครั้ง กว่าที่คนตาบอดจะมองเห็น และเมื่อเขามองเห็นได้เป็นปกติ ก็ไม่มีพระวจะกล่าวไว้อีกว่า เขาได้ของพระคุณหรือสรรเสริญพระเจ้า ถือเป็นความเมตตาที่พระเยซูได้กระทำแก่เขาอย่างแท้จริง การป่วยของเขาอาจไม่ได้เป็นเพื่อถวายเกียรติแด่พระบิดาเหมือนคนป่วย อื่น ๆ เพราะเขาไม่แสดงอาการ ใด …

พระเยซูรักษาคนตาบอดที่เมืองเบธไซดา Read More »