วางใจในพระเจ้า

จงซื่อสัตย์เถิด 

จงซื่อสัตย์เถิด    ความซื่อสัตย์ในการปรนนิบัติพระราชกิจของพระเยซูคริสต์ เป็นเครื่องมือที่มากเกินพอในการนำไปรับใช้ต่องานของพระองค์         ความซื่อสัตย์นี้มาจากการที่เราได้อ่านจากพระวจนะ ตามพระสัญญาของพระเจ้า เชื่อและรับพระวจนะนี้ไว้ และเมื่อเราได้ทำในสิ่งที่พระองค์ได้บอกเอาไว้ อย่างซื่อสัตย์ โดยพระองค์ไม่ได้บอกถึงผลที่พระองค์ต้องการเลย พระองค์เพียงต้องการให้เราทำหน้าที่ที่ พระองค์มอบหมายให้เราทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ ผลที่เกิขึ้นนั้นจะตามมาภายหลัง และจะเป็นการรับรองที่มาจากพระเจ้า         ทุกสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากพระวจนะ เมื่อเราค่อยๆสะสมความซื่อสัตย์ ที่มีต่อพระราชกิจของพระองค์ แค่นี้ก็มากเพียงพอในการที่ตอบสนองในการทำพระราชกิจของพระองค์         ขอให้เราซื่อสัตย์ในการทำพระราชกิจของพระองค์ เท่านั้น บำเหน็จและการอวยพรที่มาจากพระองค์ ก็จะก่อเกิดเป็นผลอย่าวเป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าสูงสุด   picture credit : https://www.randrmagonline.com/articles/86770-the-honest-business 

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมาจากเราทั้งสิ้น

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมาจากเราทั้งสิ้น       ในพระธรรม 1 ซามูลเอล บทที่ 31 เป็นเหตุการณ์ที่ซาอูล ตาย และพวกฟิลิสเตียก็ได้ไปฉลองในชัยชนะนั้น แท้จริงแล้วชัยชนะของพวกขาไม่ใช่เพราะพวกเขาเก่งกว่าอิสราเอลแต่อย่างใด แต่เพราะ ซาอูลมิได้เชื่อฟังพระเจ้า และนี่เป็นสาเหตุเดียวที่ทำให้อิสราอลและซาอูลพ่ายแพ้ต่อศัตรู พระเจ้าทรงให้ สถานการณ์ในทางประวัติศาสตร์เปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะเหตุการไม่เชื่อฟังของซาอูล      ในทุก ๆ การตัดสินใจ การดำเนินชีวิต เราต้องพึ่งพาพระเจ้า ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยเหลือ อย่างสุดกำลัง เพื่อเราจะไม่พลาดในทางของพระองค์แม้สักก้าวเดียว และนี่เป็นเดียวที่จะพิสูจน์ชีวิตของลูกกับเดนติดตามพระองค์ ลูกจะซื่อสัตย์อย่างสุดกำลัง ขอพระองค์ประทานหนทางแต่ละย่างก้าวให้ลูกด้วย ลูกจะถวายเกียรติพระเจ้าด้วยสุดกำลังที่ลูกมี   picture credit : Being A Better You (Self Reflection)

บทเรียนจากคนสอดแนมของโยชูวา : ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด

บทเรียนจากคนสอดแนมของโยชูวา : ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด พระเจ้าทวงสัญญาไว้กับโมเสสว่าจะยกแผ่นดินคานาอันที่มีน้ำผึ้ง น้ำนมบริบูรณ์ ให้แก่อิสราเอล และเมื่อถึงคราวที่โยชูวาต้องนำอิสราเอลต่อจากโมเสสที่ได้ไปอยู่กับพระเจ้าแล้วนั้น โยชูวาได้ส่งคนสอดแนมไปสองคนไปยังเมืองเยรีโค เพื่อดูสภาพเมือง และเก็บข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำมาแจ้งแก่ โยชูวา พระวจนะพระเจ้า ในพระธรรม โยชูวา บทที่ 2 ได้กล่าวเอาไว้ คนสอดแนมได้อยู่ในบ้านของราหับซึ่งเป็น หญิงโสเภณี และนางได้ซ่อนท่านทั้งสองไว้จากการตามล่าของนักรบเยรีโค หลังจากนั้นนางได้ขอให้ไว้ชีวิตของนางและครอบครัวเมื่ออิสราเอลจะมาและยึดเมืองนี้ นางราหับนั้นยำเกรงพระเจ้า แม้จะเป็นชาวต่างชาติก็ตาม ท้ายสุดแล้วพระเจ้าก็ได้อวยพรเธอและครอบครัวให้มีชีวิตอยู่ในดินแดนอิสราเอล สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ในตอนนี้ก็คือ แม้ว่าพระเจ้าจะมีพระสัญญาในการให้ดินแดนแก่อิสราเอล คือดินแดนคานาอัน แต่หน้าที่ความรับผิดชอบในการเข้าไปยึดครอง คืออิสราเอลเอง พวกเขาต้องมีการวางแผนอย่างดี โดยใช้การสอดแนม ไม่ใช่ฟังพระสัญญาแล้วยกทัพ เดิน ดุ่ยๆ เข้าไปยึด เมืองเยรีโค เปล่าๆ และพวกเขายังต้องเผชิญความเสี่ยงต่อชีวิตเช่นเดียวกัน ดังนั้นการพึ่งพาพระเจ้าในทุกๆ สิ่งที่ทำนั้นจึงสำคัญ เราต้องเชื่อในพระสัญญา ฟังเสียงพระเจ้าและซื่อสัตย์ ในการทำสิ่งต่างๆ อย่างไม่ประมาท picture credit : www.biblicalarchaeology.org