พระวิญญาณบริสุทธิ์

พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นมัดจำแก่เรา

Intimacy Tuesday 11 September 2018 “พระวิญญาณนั้นเป็นมัดจำในการรับมรดกของเรา จนกว่าคนของพระเจ้าจะได้รับการไถ่ เพื่อเป็นการยกย่องพระเกียรติของพระองค์” ‭‭เอเฟซัส‬ ‭1:14‬ ‭THSV11‬‬ http://bible.com/174/eph.1.14.thsv11   + ชีวิตเราได้สิทธิพิเศษอย่างมาก คือเมื่อเราได้รับพระวิญญาณเป็นมัดจำให้แก่ชีวิตเราแล้ว เราก็ได้ดำเนินชีวิตเพื่อพระนามของพระองค์ เราได้รับสิทธิ์ในการไถ่บาปของเราผ่านความเชื่อนั้นแล้ว    + แม้เราจะได้รับพระวิญญาณเป็นมัดจำแต่ถ้าเราละเลย ไม่มีความสัมพันธ์กับพระองค์ ไม่เรียนรู้ตักหรือสร้างความสนิทสนมกับพระองค์ พระองค์ในฐานะผู้ช่วย ก็จะข่วยเราได้ยาก และอาจส่งผลต่ออนาคตความเชื่อของเรา เพราะเมื่อเราต้องเผชิญการข่มเหง และการทดลอง เราจะพึ่งพาพระองค์ได้อย่างไร ในเมื่อเวลาปกติเรากลับละเลยพระองค์ 

เรารหิวกระหายในพระเจ้าอยู่ไหม

  เราหิวกระหายในพระเจ้าอยู่ไหม   ชีวิตคริสเตียนนั้นเป็นชีวิตที่ดำเนินไปด้วยฝ่ายวิญญาณ เรารับพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาในชีวิต เรารับการเปลี่ยนแปลงจากพระองค์ เรารับพระคุณความรักและความรอดจากพระเยซูผ่านความเชื่อของเรา เราได้ถูกย้ายจากถิ่นพำนักความมืดมาสู่ที่พำนักในความสว่างนิรันดร์แก่เรา    ในชีวิตฝ่ายวิญญาณแต่ละวันนั้น จำเป็นต้องทำให้จิตวิญญาณของเราเติบโตในทางของพระเจ้าทุก ๆ  วัน ความต้องการชีวิตฝ่ายวิญญาณก็ไม่ได้แตกต่างกับความต้องการฝ่ายเนื้อหนังเพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ ชีวิตฝ่ายเนื้อหนังนั้นต้องการอยู่สองอย่างคืออาหารและน้ำ ฉันใดก็ฉันนั้น ชีวิตฝ่ายวิญญาณยิ่งจะสำคัญมากกว่าเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตทั้งสิ้น ความต้องการฝ่ายวิญญาณคือการติดสนิทกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าของเราและการได้มีพระวจนะที่เป็นดังอาหารฝ่ายวิญญาณ   สองสิ่งนี้สำคัญกับจิตวิญญาณของเราเป็นอย่างยิ่ง ลองสำรวจตัวเราดูว่า ในแต่ละวันเราได้รับทั้งสองอย่างนี้มากน้อยแค่ไหน เรารู้สึกหิวกระหายไหมเวลาเราไม่ได้มีเวลาใกล้ชิดสนิทสนมกับพระวิญญาณ เราได้มีเวลาอธิษฐานส่วนตัว พูดคุยกับพระองค์มากพอที่จะทำให้จิตวิญญาณของเรารับการเติบเต็มด้วยพระองค์ไหม เราหิวกระหายในการแสวงหาอาหารฝ่ายวิญญาณคือการอ่านพระวจนะไหม เพื่อให้วิญญาณจิตเราอิ่มในแต่ละมื้อ    ถ้าเราไม่ได้รู้สึกว่าสองอย่างนี้เป็นความหิวกระหายฝ่ายวิญญาณ คือเรามไม่ได้มีเวลาใกล้ชิดพระองค์ทุก ๆวัน เราไม่ได้อ่านพระวจนะทุกวัน นั่นแสดงว่าเรากำลังมีปัญหากับวิญญาณจิตของเราแล้ว เราอาจทำงานฝ่ายกายภาพได้อย่างต่อเนื่อง เราทำงานของพระเจ้าได้อย่างราบรื่น เพราะสิ่งเหล่านั้นในร่างกายซึ่งเราก็ต้องใช้พลังงานผ่านการทานอาหารทุกมื้อ จริงไหม เราทานเราเลยมีกำลังในการทำงานด้วยร่างกายของเรา    แต่ที่สำคัญกว่านั้น สิ่งที่พระเยซูให้ความสำคัญคือเรื่องจิตวิญญาณมิใช่หรือ ? พระองค์เป็นแบบอย่างให้เแก่เราในการแสวงหาพระบิดาอยู่เสมอ แม้ว่าพระองค์จะทำพระราชิจของพระเจ้าหนักมากกว่าเราในแต่ละวัน พระองค์ไม่ขาดในการแสวงหาพระบิดาเลย แล้วเราเป็นใคร ที่จะละเลยสิ่งเหล่านี้ ชีวิตเรายังขับเคลื่อนด้วยความหิวกระหายในพระเจ้าอยู่หรือไม่ หรือว่าเราดำเนินชีวิตไปตามความต้องการฝ่ายร่างกายเพียงอย่างเดียว เรามีหัวใจรักพระเจ้า เรามุ่งทำงานหนักเพื่อให้งานพระเจ้าถูกขยายออกไป นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นพระมหาบัญชาที่พระเยซูให้ไว้ แต่…..แต่ถ้าเราไม่ได้ทำสิ่งที่สำคัญกว่าที่พระเยซูได้ทำเป็นแบบอย่างให้เรา ก่อนหน้านี้ในหลาย …

เรารหิวกระหายในพระเจ้าอยู่ไหม Read More »

ไฟพิพากษาจะลงมา

Intimacy Thursday 23 August 2018  “โดยน้ำนั้นเอง โลกในเวลานั้นก็ได้ถูกทำลายไปด้วยน้ำท่วม และโดยพระวจนะเดียวกันนั้นเอง ฟ้าและแผ่นดินในปัจจุบัน ก็เก็บรักษาไว้สำหรับไฟ ถูกเก็บไว้จนกว่าจะถึงวันพิพากษาและวันหายนะของบรรดาคนอธรรม” ‭‭2 เปโตร‬ ‭3:6-7‬ ‭THSV11‬‬ http://bible.com/174/2pe.3.6-7.thsv11   + เมื่อเราอ่านพระวจนะทั้งเล่ม เราจะเห็นว่า แผนการความรักที่พระเจ้าให้แก่มนุษย์เป็นเช่นไร เราเห็นว่า ในสมัยนั้น น้ำถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายคนบาปในแผ่นดินโลก และในเวลานี้ ไฟจะเป็นตัวพิพากษาบรรดาประชาชาติอธรรม    + พระวจนะได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าทั้งสิ้นแล้ว เมื่อเราอ่านและใคร่ครวญ เราจะเห็นถึงความเสื่อมทรามทั้งสิ้นที่คืบคลานเข้ามา เราต้องเตรียมชีวิตของเรา ทำหน้าที่ตามพระทัยพระบิดาในชีวิตเรา. นำข่าวประเสริฐและสั่งสอนชนชาติต่างๆ ให้เป็นสาวกพระเยซู ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยให้พันธกิจที่ยิ่งใหญ่จะสำเร็จในชีวิตของเราด้วย อาเมน