ชีวิตในพระคริสต์

เชื้อของพวกฟาริสี สะดูดี

เชื้อของพวกฟาริสี สะดูดี ในช่วงนั้นมีฝูงชนนับเป็นพันๆ ชุมนุมเบียดเสียดกันอยู่ พระเยซูทรงเริ่มตรัสกับบรรดาสาวกของพระองค์ก่อนว่า “ท่านทั้งหลายจงระวังเชื้อของพวกฟาริสี คือความหน้าซื่อใจคด 2แต่ไม่มีอะไรที่ปิดบังไว้ที่จะไม่เปิดเผย หรือความลับที่จะไม่เผยให้ประจักษ์ 3ถ้าอย่างนั้น สิ่งสารพัดซึ่งท่านทั้งหลายกล่าวในที่มืดจะได้ยินในที่แจ้ง และซึ่งกระซิบในหูที่ห้องส่วนตัวจะประกาศบนดาดฟ้าหลังคาบ้าน ลก12:1 พระเยซูกล่าวถึงให้เราทั้งหลายระมัดระวังชีวิตของเราเพื่อไม่ให้เรา มีชีวิตที่เป็นเหมือนฟาริสีและสะดูสี พระเยซูได้เปรียบเทียบชีวิตของฟาริสีแลสะดูสี ที่มีสิ่งที่เหมือนกันคือ เป็นคนหน้าซื่อใจคด มีท่าทีภายในใจที่ไม่ถูกต้อง เป็นคนที่พูดอย่างทำอีกอย่าง    ชีวิตของฟาริสีและสะดูสี เป็นชีวิตที่ดูภายนอกดูดี และพยายามที่จะแสดงตัวเองให้เป็นเหมือนคนของพระเจ้า พยายามที่จะรักษาพระบัญญัติอย่างเคร่งครัด ชอบอวดตัวต่อหน้าสาธารณะเพื่อให้คนอื่นดูต่ำกว่า และพวกเขาจะคอยดูถูกคนอื่น อยู่เสมอและคิดแบบผิด ๆ ว่าสิ่งที่พวกเขาทำเป็นสิ่งที่ถูกแล้ว    เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่าชีวิตของฟาริสีและสะดูสี สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่ได้ดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยพระเจ้า พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่พยายามจะฆ่าพระเยซู ด้วยการตรึงกางเขน   เราเองจำเป็นต้องคอยสำรวจชีวิตเราอยู่เสมอเพื่อไม่ให้ชีวิตเรามีเชื้อฟาริสีและสะดูสีภายในใจของเรา เราต้อง อธิษฐานขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้เรามีกำลังที่จะรักษาใจของเราให้อยู่ในน้ำพระทัยของพระองค์ อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง  อย่างที่พระเยซูได้บอกไว้ เมื่อมีเชื้อเพียงนิดเดียว มันก็จะทำให้แป้งฟูได้ เช่นเดียวกัน เราต้องไม่เก็บเชื้อร้ายใด ๆ ไว้   อีกเรื่องที่สำคัญก็คือการไม่ให้ใจของเราพิพากษาคนอื่น หรือดูถูกคนอื่น ไม่ว่าเขาจะเป็นเช่นไร พระเจ้ายังรักเขาอย่างที่เขาเป็นและพระองค์มีเวลาที่ปรับปรุงแก้ไข และเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา หน้าที่เราคือเราต้องซื่อสัตย์ต่อพระองค์ และรักษาใจของเราต่อพระองค์เอาไว้ พระองค์รักเรามากและปรารถนาจะนำเราห่างไกลจากเชื้อร้ายฟาริสีและสะดูสี    ( อ่านเพิ่ม มธ 16 :5-12 )

ทำไมพระเจ้ายังไม่ตอบคำอธิษฐานของเรา

ทำไมพระเจ้ายังไม่ตอบคำอธิษฐานของเรา       หลายครั้งเราเผชิญภาระหรือปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต เราเองก็พอจะรู้ว่าการเป็นคริสเตียนก็ย่อมต้องเผชิญภาระปัญหาอยู่แล้ว แต่เราก็รู้ว่าเมื่อเราอธิษฐานร้องทูลต่อพระเจ้า พระองค์จะทรงฟังและตอบคำอธิษฐานของเรา เราก็มุ่งมั่นที่จะอธิษฐาน ตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะรักษาความเชื่อ และรักษาชีวิตชอบธรรมของเราให้ดีที่สุด       แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นว่าภาระปัญหายังคงมีอยู่ และเราก็ได้รับผลกระทบต่อปัญหานั้นโดยตรง เรายังคงเผชิญภาระปัญหาและรับผลโดยตรงต่อปัญหา ทำให้เราต้องเผชิญความยากลำบากในการเผชิญชีวิต คำถามนี้ยังเกิดขึ้นกับเราอยู่ไหม หรือเราเคยเจอสภาวะอย่างนี้ไหม    ผมยืนยันอย่างหนักแน่นที่สุดจากประสบการณ์ความเชื่อตลอดหลายปีในพระเยซูคริสต์ พระเยูคริสต์ได้ตอบคำอธิษฐานของเราแล้วตั้งแต่ที่เราได้อธิษฐานต่อพระองค์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นที่เราต้องเข้าใจก็คือช่วงเวลาการตอบคำอธิษฐานของพระองค์ ซึ่งเราเองไม่สามารถกำหนดเวลาให้พระองค์ได้เลย เพราะเป็นสิทธิ์อำนาจของพระองค์เท่านั้น เราต้องมั่นใจว่าพระองค์มีเวลาของพระองค์อย่างเจาะจงให้แก่เราและการตอบคำอธิษฐานของพระองค์นั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา     มาดูสิ่งที่พระเจ้าได้ตอบคำอธิษฐานของโมเสสกัน ในพระธรรมอพยพ บทที่ 4  หลังจากที่อิสราเอลยังต้องทนทุกข์ลำบากจากการกดขี่ข่มเหงของฟาโรห์ มาอย่างยาวนาน พระเจ้าได้เรียกโมเสสมาและสัญญาว่าพระองค์จะใช้ท่านไปเพื่อช่วยปลดปล่อยชนชาติอิสราเอล  นี่คือ “ คำพูด ” ที่พระเจ้าพระยาเวห์ได้พูดกับโมเสส พระองค์เป็นผู้เริ่มต้นกระทำ ไม่ใช่โมเสส     หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ในอพยพบทที่ 5 สิ่งที่เกิดขึ้นกับอิสราเอลคือ พวกเขาต้องทำงานหนักมากขึ้น คือต้องทำงานทาสที่หนักและยากลำบากขึ้น คือปกติคนอียิปต์จะให้อิฐและฟางในการทำงาน แต่กลับเป็นว่า พวกเขาให้แต่อิฐ ส่วนฟางต้องไปหาเอง ทำให้ชนชาติอิสราเอลต้องใช้เวลาหาฟางเพิ่มขึ้น …

ทำไมพระเจ้ายังไม่ตอบคำอธิษฐานของเรา Read More »

รู้จักพระบิดาให้มากขึ้น

รู้จักพระบิดาให้มากขึ้น   ชีวิตคริสเตียน แท้จริงแล้วคือชีวิตที่เราได้กลับมาสู่ความสัมพันธ์ที่ติดสนิทและลึกซึ้งกับพระบิดาผ่านการไถ่ชีวิตบาปของเราบนไม้กางเขนโดยพระเยซู ครั้งหนึ่งเราเคยที่จะห่างเหินพระบิดาเพราะเราต้องรับโทษความบาปทางอดัม แต่บัดนี้เราได้กลับมาหาพระองค์ได้อีกครั้งหนึ่งเพราะความรักที่พระเยซูคริสต์มีให้แก่เราผ่านการชำระบาปด้วยโลหิตของพระองค์และการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนนั้น   การได้รับความรอดและชีวิตนิรันดรผ่านกางเขน เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นชีวิตใหม่บนโลกนี้ แม้ว่าเรายังคงทำสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตเหมือนเดิมแต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ เรามีพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ในชีวิตเราแล้ว สิ่งที่เราต้องทำต่อไปในแต่ละวันคือ การที่เราได้มีปฎิสัมพันธ์กับพระองค์เพื่อเราจะได้เรียนรู้จักพระองค์มากขึ้น วันต่อวัน    พระวิญญาณบริสุทธิ์มาอยู่ในชีวิตเราในฐานะผู้ช่วย เปรียบภาพง่าย ๆ ก็คือ เมื่อเรารู้จักพระเจ้า เราก็เหมือนมีพระเยซูคอยอยู่กับเราตลอดเวลา เพียงแต่เราไม่สามารถใช้สัมผัสทั้ง 5 ในการมีความสัมพันธ์กับพระองค์ได้ทั้งหมด เราใช้วิญญาณจิตของเราในการปฎิสัมพันธ์กับพระองค์ ผ่านสิ่งง่าย  ๆ ที่คือการ อธิษฐาน การอ่านพระวจนะ การนมัสการ  อาจารย์เปาโลให้เราได้อธิษฐานกับพระบิดาเพื่อเราจะรู้จักพระองค์มากขึ้น  ในพระธรรมเอเฟซัส 6 : 17 กล่าวว่า ” ข้าพเจ้าอธิษฐานว่าขอพระเจ้าของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราคือพระบิดาผู้ทรงพระสิริทรงให้ท่านทั้งหลายมีจิตใจที่ประกอบด้วยปัญญาและการสำแดง เพื่อท่านจะรู้จักพระองค์ ”  ประสบการณ์ที่อาจารย์ได้พบเจอพระเยซูผ่านเสียงของพระองค์ที่ถนนไปดามัสกัสเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ท่านมีกับพระเยซู และพระองค์ก็ได้สำแดงผ่านพระวิญญาณมาถึงชีวิตของท่านเรื่อยมาในการทำพระราชกิจของพระองค์  จะเป็นไปไม่ได้เลยที่อาจารย์เปาโลจะทำสิ่งต่าง ๆ มากมาย โดยไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ติดสนิทกับพระองค์ ยังไม่รวมการถูกข่มเหงและการเข้าใจผิดต่าง ๆ ที่ท่านต้องเผชิญ แต่เพราะว่าท่านรู้จักพระองค์อย่างลึกซึ้ง และเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ที่พระบิดาทรงโปรดมีให้กับท่าน …

รู้จักพระบิดาให้มากขึ้น Read More »