การวัดความเติบโตฝ่ายวิญญาณ

การวัดความเติบโตฝ่ายวิญญาณ

การดำเนินชีวิตคริสเตียนนั้น สิ่งหนึ่งที่จะวัดความเติบโตของผู้เชื่อ ไม่ได้อยู่ที่ว่า เขาเชื่อพระเจ้ามานานแค่ไหน หรือ เขาทำงาน ปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าสำเร็จมากมายแค่ไหน หรือ เป็นคนที่มีชื่อเสียง มากแค่ไหน แม้กระทั่งคนที่อ่านพระคัมภีร์จบหลาย ๆ รอบ หรือเขียน วรรณกรรมคริสเตียน เขียน อรรถาธิบายพระคัมภีร์ก็ตาม แม้นั้นอาจจะเป็นการเติบโตในฝ่ายวิญญาณได้บ้าง แต่หลายครั้งเราเห็นว่า คริสเตียนที่เชื่อพระเจ้ามานานบางครั้งก็บันดาลโทสะ อย่างกับคนที่ไม่รู้จักพระเยซูคริสต์เลย และทำให้พระเจ้าไม่ได้รับเกียรติ

การวัดความเติบโตที่แท้จริง ต้องวัดเมื่อเขาเผชิญกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต นั่นจึงจะเป็นการวัดความเติบโตที่ดีที่สุด การตอบสนองต่อสถานการณ์นั้น ๆ ณ เวลานั้น จะทำให้เราเห็นตัวเราเองดีที่สุด เมื่อเราถ่อมใจเรียนรู้และเข้าใจสถานการณ์ เราจะสามารถบอกตัวเองได้ว่า เราเติบโตกับพระเจ้ามากเพียงใด

การตอบสนองต่อสถานการณ์ จะรวมถึงสถานการณ์ในชีวิตประจำวันของเรา ไมว่าจะเป็นเรื่อง การทำงาน การตอบสนองต่อแรงกดดัน คำพูดของคนรอบข้าง คำพูดใส่ร้าย คำพูดถากถาง หรือการที่เราพูดบางสิ่งที่พระเจ้าไม่ได้รับเกียรติ คำสบถ คำพูดประชด หรือจะเป็นเหตุการณ์ที่เราต้องรอคอย อดทน ณ เวลานั้น เราจะรู้ตัวเราเลยว่า เราขอบคุณหรือเราบ่นต่อว่าพระเจ้า เราเท่านั้นที่รู้ อีกประการคือ สถานการณ์ในการปรนนิบัติรับใช้ มีส่วนในพระราชกิจพระเจ้า การดูแลฝูงแกะ การทำงานรับใช้ร่วมกันกับผู้อื่น แน่นอนว่า อาจมีการกระทบกระทั่งความคิด การถูกเข้าใจผิด ฯลฯ

ยิ่งเราเรียนรู้ในแต่ละวัน ว่าเราตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างไรแล้ว เหตุการณ์ใดที่เราอาจตอบสนองผิด เราก็ควรที่จะขอการกลับใจจากพระเจ้า และเข้าไปปรับความเข้าใจ ขอโทษ กับคน ๆ นั้น ด้วย

เพราะฉะนั้น ถ้าท่านนำเครื่องบูชามาถึงแท่นบูชาแล้ว และระลึกขึ้นได้ว่า พี่น้องมีเหตุขัดเคืองข้อหนึ่งข้อใดกับท่าน 24จงวางเครื่องบูชาไว้ที่หน้าแท่นบูชา และกลับไปคืนดีกับพี่น้องผู้นั้นเสียก่อน แล้วจึงค่อยมาถวายเครื่องบูชาของท่าน มธ 5: 23-24

พระคำตอนนี้เน้นย้ำเราอย่างมาก ว่าความสัมพันธ์กับคน นั้น สำคัญมาก ถึงขนาดที่พระเยซู บอกให้หยุดที่จะถวายเครื่องบูชาก่อน เพื่อที่จะไปคืนดีกับพี่น้อง เพราะท่าทีภายใน เมื่อไม่ได้ถูกทำให้สะอาดเรียบร้อย ก็จะกลายเป็นการสุมไฟให้เกิดขึ้น เช่นนี้ การรับเครื่องเผาบูชาจากพระเจ้า คงจะไม่ได้เกิดประโยช์น อันใด

ดังนั้น การตอบสนองต่อสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต เราต้องตอบสนองด้วย การพึ่งพา พระวิญญาณบริสุทธิ์ อย่าให้เนื้อหนังหรือความคิดเราเป็นใหญ่ เราต้องนบนอบถ่อมใจลง ให้ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ช่วยเรา เอาความหยิ่งยโสในตัวเราออกไป และยอมรับการช่วยเหลือจากพระวิญญาณ และนี่จะทำให้เราค่อย ๆ ตอบสนองสถานการณ์ ต่าง ๆ ได้ถูกต้องตามพระทัยของพระบิดาได้มากยิ่งขึ้น แล้วเราก็จะเป็นผู้ใหญ่ในฝ่ายวิญญาณมากขึ้นไปด้วย

เริ่มวันนี้เลยนะครับ ขอพระบิดาได้รับเกียรติผ่านชีวิตเราทั้งหลาย อาเมน

Leave a Comment

Your email address will not be published.