เยียวยาหัวใจ

บัดนี้ข้าพระองค์ทูลวิงวอน ขอพระองค์ทรงบันดาลให้ฤทธิ์อำนาจขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ใหญ่

17บัดนี้ข้าพระองค์ทูลวิงวอน ขอพระองค์ทรงบันดาลให้ฤทธิ์อำนาจขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ใหญ่ยิ่งดังพระสัญญาที่ว่า 18‘พระเยโฮวาห์ทรงพระพิโรธช้า ทรงอุดมในความเมตตา ทรงโปรดยกโทษความชั่วช้าและให้อภัยการละเมิด แต่ถือว่าไม่มีโทษหามิได้ ให้โทษเพราะความชั่วช้าของบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานสามชั่วสี่ชั่วอายุ’ 19ขอทรงประทานอภัยความชั่วช้าของชนชาตินี้ตามความยิ่งใหญ่แห่งความเมตตาของพระองค์ ดังที่พระองค์ทรงประทานอภัยชนชาตินี้ตั้งแต่อียิปต์จนบัดนี้” กดว 14:17-19 พระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งความรัก ความเมตตาและทรงยุติธรรมอย่างที่สุด พระองค์อดกลั้นพระทัยไว้นาน ตามพระลักษณะของพระองค์ แม้กระนั้น ชนชาติอิสราเอลก็ยังดื้อดึง ไม่เชื่อฟัง ขาดความเชื่อ โดยต้องการที่กลับไปอียิปต์หลังจากที่มีการสอดแนมแล้ว ส่วนใหญ่ มีความกลัวและไม่กล้าเข้าเขตแดนคานาอัน พระพิโรธของพระองค์ก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อโมเสสได้ทูลวิงวอนขอพระองค์ ให้ระงับโทสะอันชอบธรรมนี้ ไม่ให้ตกแก่อิสราเอล พระองค์โปรดฟังคำวิงวอนของโมเสส แต่สิ่งที่พวกเขาต้องรับผล รวมถึงโมเสสและคนของท่าน ก็คือ พวกเขาต้องเดินใน ถิ่นทุรกันดาร นานถึงสิบสี่ปี จากที่จะเข้าแผ่นดินคานาอันได้เพียง สี่วัน หลายครั้งเมื่อเราทำให้พระเจ้าเสียพระทัยอย่างมาก พระองค์ยังคงมีเมตตาเสมอ แต่เมื่อใด ที่เราจำต้องเดินในความชอบธรรมของพระองค์และเราดื้อดึง ขาดความเชื่อหรือไม่เชื่อฟังพระองค์แล้ว เราอาจจะต้องเผชิญสถานการณ์เดียวกันกับที่อิสราเอลต้องเผชิญอยู่ก็เป็นได้ นั่นเป็นเพราะตัวเราทำตัวเราเอง เราต้องขอพระวิญญาณให้เรารักษาความเชื่อ วางใจในพระองค์เอาไว้ อยู่เสมอ

จงฟังถ้อยคำของเรา ถ้าจะมีผู้พยากรณ์ท่ามกลางเจ้าทั้งหลาย

พระองค์ตรัสว่า “จงฟังถ้อยคำของเรา ถ้าจะมีผู้พยากรณ์ท่ามกลางเจ้าทั้งหลาย เราพระเยโฮวาห์จะสำแดงตัวแก่ผู้นั้นเป็นนิมิต เราจะพูดกับเขาทางฝัน 7สำหรับโมเสสผู้รับใช้ของเราก็ไม่เป็นเช่นนั้น ในวงศ์วานทั้งหมดของเราเขาสัตย์ซื่อ 8เราพูดกับเขาปากต่อปากอย่างชัดเจน ไม่พูดเร้นลับ และเขาเห็นสัณฐานของพระเยโฮวาห์ ไฉนเจ้าไม่กลัวที่จะพูดติโมเสสผู้รับใช้ของเรา” กดว 12:6-7 ความล้ำลึกของพระเจ้าก็เกินกว่าที่มนุษย์อย่างเราจะเข้าใจได้ และการสำแดงของพระองค์ก็เป็นสิทธิอำนาจของพระองค์แต่เพียงผู้เดียว เมื่อพระองค์จะสำแดงแก่เรา พระองค์มีหลากหลายวิธีในการสำแดงพระทัยของพระองค์ เช่น นิมิต หรือความฝัน นับว่าเป็นช่องทางหนึ่งที่พระองค์จะทำ สิ่งที่เราควรปรารถนาก็คือความสัมพันธ์สนิทแบบโมเสสกับพระเจ้า ที่พระองค์เองไม่ได้ปิดบังพระทัยที่พระองค์มีต่อโมเสสเลย เพราะท่านเป็นคนซื่อสัตย์ และพระองค์ได้สนทนาต่อท่าน สองต่อสอง และพูดต่อหน้าท่าน ปากต่อปากอย่างชัดเจน ยิ่งเราสัมพันธ์สนิทกับพระวิญญาณบริสุทธิ์เช่นนี้ การสำแดงของพระองค์ก็จะเกิดขึ้นเช่นเดียวกับที่พระองค์ได้สำแดงแก่โมเสสผู้รับใช้พระองค์เช่นเดียวกัน สรรเสริญพระเจ้า ชาโลม !

เราจะลงมาสนทนากับเจ้าที่นั่น และเราจะเอาจากวิญญาณที่มีอยู่บนเจ้ามาใส่บนคนเหล่านั้นด้วย

16พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงรวบรวมพวกผู้ใหญ่ในอิสราเอลให้เราเจ็ดสิบคน เป็นคนที่เจ้ารู้ว่าเป็นผู้ใหญ่ของประชาชนและเป็นเจ้าหน้าที่ของเขาทั้งหลาย จงพาพวกเขามาที่เต็นท์นัดพบและให้ยืนอยู่พร้อมกับเจ้าที่นั่น 17เราจะลงมาสนทนากับเจ้าที่นั่น และเราจะเอาจากวิญญาณที่มีอยู่บนเจ้ามาใส่บนคนเหล่านั้นด้วย และให้เขาทั้งหลายแบกภาระของประชาชนเหล่านี้ร่วมกับเจ้า เพื่อเจ้าจะไม่ต้องแบกคนเดียว กดว 11:16-17 โมเสสทูลวิงวอนพระเจ้าขอการช่วยกู้มาถึงท่าน เมื่อท่านโดนชนชาติอิสราเอลบ่นต่อว่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขา พระเจ้าได้ให้โมเสสนำผู้ใหญ่ เจ็ดสิบคน มาที่เต็นท์นัดพบ และพระองค์ได้ให้ท่านเหล่านั้น รับภาระใจร่วมกันกับโมเสสด้วย การปรนนิบัติพระเยซู ไม่ใช่การงานที่ทำเองเพียงคนเดียวได้ จำต้องพึ่งพาอาศัยกันและกันและเสริมสร้างพระกายของพระองค์ร่วมกัน พระราชกิจของพระบิดาเป็นงานที่มีเกียรติ และยิ่งใหญ่กว่างานใด ๆ บนโลกนี้ เมื่อเราขอกำลังและทิศทางจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราจะมีกำลังและเรี่ยวแรงในการเดินต่อไปได้ นี่เป็นพระคุณอันเลิศล้ำที่มาจากพระองค์