ติดสนิทพระเจ้า

ประชาชนทุกคนได้ยิน เสียงฟ้าร้อง และเสียงแตร อีกทั้งได้เห็นฟ้าแลบและควันที่พลุ่งขึ้นจากภูเขานั้น ประชาชนก็กลัวจนตัวสั่นยืนอยู่แต่ไกล

ประชาชนทุกคนได้ยิน เสียงฟ้าร้อง และเสียงแตร อีกทั้งได้เห็นฟ้าแลบและควันที่พลุ่งขึ้นจากภูเขานั้น ประชาชนก็กลัวจนตัวสั่นยืนอยู่แต่ไกล อพยพ 20:18 THSV11 https://bible.com/bible/174/exo.20.18.THSV11 พระยาเวห์สำแดงพระองค์ แก่อิสราเอลผ่าน เสียงฟ้าร้อง หมอกควัน เสียงแตร ฯลฯ เพื่อให้พวกเขายำเกรงพระองค์ แน่นอนว่าพระองค์รักพวกเขา พระองค์เป็นผู้เลือกชนชาติที่ดื้อดึง พระองค์รู้จักพวกเขาดี แต่ ความรักมั่นคงของพระ องค์ไม่เคยยั้งหยุด เมื่อเราสัมผัสความรักพระเจ้า เรารู้ว่า ความรักนั้นชนะทุกสิ่งได้ และเมื่อเรายำเกรงพระองค์ เราจะได้เริ่มต้นรับปัญญาจากพระเจ้า เราไม่ต้องกลัวพระองค์ แต่เราจะยำเกรงพระองค์

พระยาเวห์ เริ่มประทานกฎเกฎฑ์ที่จะใช้ไปอีกหลายชั่วอายุคน นั่นคือ บัญญัติสิบประการ

อพย 20 : 1 -17 พระยาเวห์ เริ่มประทานกฎเกฎฑ์ที่จะใช้ไปอีกหลายชั่วอายุคน นั่นคือ บัญญัติสิบประการ ที่พระเจ้าได้มอบไว้แก่โมสส ขณะที่ท่านได้ขึ้นไปบนภูเชาซีนาย เพื่อรับพระบัญชาจากพระองค์ ถ้อยคำที่พระองค์ได้กล่าวไว้ตลอดพระวจนะ ล้วนแต่สำคัญและมีผลต่อการดำเนินชีวิตของเราในปัจจุบันอย่างยิ่ง เราต้องมั่นแสวงหาพระวจนะ อยุ่เสมอ เพื่อให้พระคำเป็นจริงในชีวิต พระบัญญัติ สิบประการ เริ่มต้นเพิ่อช่วยให้อิสราเอลเห็นสิ่งที่ ต้องทำ และห้ามทำ และเราเองมี พระวจนะ ที่าครบถ้วนสมบูรณ์เพื่อให้เราได้ยึดถือไว้ ในการเดินติอตามพระองค์ ด้วยฤทธิ์เดชพระวิญญาณ

จงทานพระวจนะเป็นอาหารฝ่ายวิญญาณทุกวัน

จงทานพระวจนะเป็นอาหารฝ่ายวิญญาณทุกวัน ทุกวันที่เราตื่นขึ้น ร่างกายเราจำเป็นที่จะได้รับอาหารเพื่อทำให้ตัวเรามีกำลังที่จะทำการงาน หรือหน้าที่รับผิดชอบต่าง  ๆ ต่อไปได้ อาหารจึงจำเป็นสำหรับร่างกายของเรา และเช่นเดียวกัน จิตวิญญาณของเราก็ต้องการอาหารฝ่ายวิญญาณ เพื่อที่จะทำให้ร่างกายฝ่ายวิญญาณรับสารอาหารที่ครบบริบูรณ์ และมีกำลังในฝ่ายวิญญาณที่จะทำการงานต่าง ต่อไปได้ หลายครั้งคริสเตียนละเลยที่จะทานอาหารฝ่ายวิญญาณ แต่ให้อาหารฝ่ายร่างกายทำหน้าที่แทน หมายความว่า พวกเขาอาจคิดว่า ทานอาหารฝ่ายร่างกายก็คงจะเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องทานอาหารฝ่ายวิญญาณทุก  ๆ วัน ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดอย่างมาก   เราต้องตั้งคำถามกับตัวเราก่อนว่า “วันนี้เรารู้สึกหิวฝ่ายวิญญาณอยู่ไหม”  นั่นคือเมื่อเรารู้ว่าอาหารฝ่ายวิญญาณนั้นจะทำให้จิตวิญญาณมีกำลังและทำให้ร่างกายแข็งแรง เหมือนกับที่เราให้เวลาในการเลือกทานอาหารที่มีประโยช์นและมีโภชนการสูง   ถ้าเราตอบตัวเราเอง เรารู้สึกเฉย ๆ กับการทานอาหารฝ่ายวิญญาณ นั่นเป็นสัญญาณที่เป็นอันตรายต่อจิตวิญญาณอย่างยิ่ง และจะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตคริสเตียนอย่างแน่นอน เพราะร่างกายฝ่ายวิญญาณได้ขาดสารอาหารที่จำเป็นสำหรับชีวิตฝ่ายวิญญาณไปแล้ว   อาหารฝ่ายวิญญาณนั่นก็คือ พระวจนะหรือพระคำของพระเจ้า อาจเป็นหนังสือ หรือเป็นแอพที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ ของเราเอง การอ่านพระคำพระเจ้า นั่นเสมือนกับการที่เราได้ทานอาหารฝ่ายวิญญาณ ยิ่งเราใช้เวลาใคร่ครวญ โดยให้พระวิญญาณช่วยทำความเข้าใจแทนเรา ก็เหมือนกับเราได้ เคี้ยวอาหารที่แสนอร่อยนี้อย่างช้าๆ และกลืนลงไปด้วยความอิ่มหนำสำราญใจ พระเยซูกล่าวชัดเจน ว่า “ฝ่ายพระองค์ตรัสตอบว่า “มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ‘มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า ” (มธ.4:4)   …

จงทานพระวจนะเป็นอาหารฝ่ายวิญญาณทุกวัน Read More »