ติดสนิทพระเจ้า

ขอทรงโปรดสำแดงพระมรรคาของพระองค์ให้ข้าพระองค์เห็นในกาลบัดนี้

ฉะนั้นบัดนี้ ข้าพระองค์ทูลวิงวอนต่อพระองค์ ถ้าแม้ข้าพระองค์ได้รับพระกรุณาในสายพระเนตรของพระองค์แล้ว ขอทรงโปรดสำแดงพระมรรคาของพระองค์ให้ข้าพระองค์เห็นในกาลบัดนี้ เพื่อข้าพระองค์จะรู้จักพระองค์ แล้วจะรับพระกรุณาในสายพระเนตรของพระองค์ และขอทรงถือว่าชนชาตินี้เป็นพลไพร่ของพระองค์” 14ฝ่ายพระองค์ตรัสว่า “เราเองจะไปกับเจ้า และให้เจ้าได้พัก” อพย 33:13-14 โมเสสอธิษฐานวิงวอน ร้องขอให้พระยาเวห์อยู่ด้วยกับชนชาติอิสราเอล และพระองค์โปรดฟังเสียงโมเสสและได้ตอบในคำวิงวอนนั้น ชีวิตแห่งการอธิษฐาน และการวิงวอน เป็นส่วนหนึ่งของผู้เชื่อ เราสามารถเข้าใจพระทัยและสามารถอธิษฐานวิงวอนในเรื่องที่เรามีความปรารถนาอย่างมากได้ พระองค์โปรดฟังเราเสมอและทุกเรื่อง และพระองค์ปรารถนาที่จะตอบในคำอธิษฐานของเรามากเช่นกัน เราต้องมีห้วใจแห่งการมีชีวิตใกล้ชิดและอธิษฐานต่อพระองค์ อย่างสม่ำเสมอ และสนิทสนม เช่นเดียวกับโมเสส ที่ใกล้ชิดพระองค์และสามารถสื่อสารกับพระองค์ได้ทุกเรื่อง แม้เป็นความต้องการบางอย่างที่สำคัญของท่านเอง

พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสสองต่อสอง เหมือนมิตรสหายสนทนากัน

ดังนี้แหละพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสสองต่อสอง เหมือนมิตรสหายสนทนากัน แล้วโมเสสก็กลับไปยังค่าย แต่โยชูวาผู้รับใช้หนุ่ม ผู้เป็นบุตรชายของนูน มิได้ออกไปจากพลับพลา อพย 33:11 ภาพของการสนทนาแบบสองต่อสองระหว่างพระเจ้าและโมเสส ทำให้เราเห็นภาพชัดเจนอย่างมากระหว่างพระบิดาผู้สร้างเราและตัวเราเองที่เป็นมนุษย์คนบาป ที่สามารถสนิทสนมและพูดคุยกันได้อย่างแนบแน่น สิ่งควรเป็นวิถึชีวิตของผู้เชื่อในฐานะลูกของพระองค์ ตามที่เราได้รับพระเยซูเป็นผู้ช่วยให้รอดแล้ว ความสนิทสนมแบบนี้ เป็นสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ในเราปรารถนาให้เกิดขึ้น อยู่ทุก ๆ วันเพื่อเราจะเข้าใจในหัวใจ พระทัยของพระบิดาและ เราจะรับการสำแดงจากพระองค์มากยิ่งขึ้น วันต่อวัน นี่ยังเป็นสิทธิพิเศษเสมอที่เราได้ใกล้ชิดพระองค์ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในตลอดประวัติศาสตร์พระคัมภีร์ คือยุคของเรานี่เอง สรรเสริญพระเจ้า

เวลาพลไพร่ทั้งปวงเห็นเสาเมฆนั้นตั้งอยู่ที่ประตูพลับพลาเมื่อไร ทุกคนก็จะลุกขึ้นยืนนมัสการ

เวลาพลไพร่ทั้งปวงเห็นเสาเมฆนั้นตั้งอยู่ที่ประตูพลับพลาเมื่อไร ทุกคนก็จะลุกขึ้นยืนนมัสการอยู่ที่ประตูเต็นท์ของตน อพย 33:10 ทุกครั้งเมื่อเรานมัสการพระเจ้า เราก็กำลังนำการทรงสถิตของพระองค์ลงมาสู่ชีวิต จิตวิญญาณของเรา การนมัสการด้วยบทเพลงและการสรรเสริญพระองค์ ก็จะนำให้จิตวิญญาณเราได้สัมผัสการทรงสถิตได้มาก และการนมัสการพระเจ้าด้วยรูปแบบอื่น ๆ ก็สามารถนำการทรงสถิตของพระองค์ลงมาได้ ซึ่งจะนำให้เกิดความยำเกรง และเห็นฤทธิอำนาจ พระสิริของพระองค์ปกคลุมในที่ ๆ เรากำลังอยู่ สิ่งเหล่านี้จะเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นในฝ่ายวิญญาณของเราทั้งหลายเพื่อให้เราได้สัมผัสใน พระสิริและฤทธิ์อำนาจของพระองค์ จะทำให้วิญญาณจิตเราเต็มเปี่ยมไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และจะนำให้เราได้มีประสบการณ์การใกล้ชิดพระองค์มากขึ้นในแต่ละวัน สรรเสริญพระเจ้า