การเจิม

จงร้องทูลทุกเรื่องแด่พระบิดา

จงร้องทูลทุกเรื่องแด่พระบิดา แม้ว่าเขารู้ว่าพระบิดารักเราและโปรดดูแลชีวิตของเราอย่างดีมาตลอด พระวจนะก็ได้สัญญาเช่นนั้นและปลายทางก็จะได้รับผลที่ดี แต่ว่าในความเป็นมนุษย์ที่ยังมีอารมณ์ความรู้สึก มีช่วงเวลาที่อ่อนกำลัง มีช่วงเวลาที่ท้อถอยใจ สิ่งนี้ทำให้หลายครั้งเราขาดความไว้วางใจไปในชั่วขณะหนึ่ง การติดสนิทและใกล้ชิดพระวิญญาณจะทำให้เรามีความมั่นคงในจิตใจและการร้องทูลอธิษฐานด้วยความเชื่อและวางใจยังเป็นกุญแจที่สำคัญที่สุดในการรับการช่วยเหลือและปลดปล่อยจากภาระต่างๆที่เรากำลังเผชิญอยู่ หลายครั้งเหตุการณ์ต่างๆที่ยังไม่ได้เป็นไปตามที่เราตั้งใจ เหตุการณ์เหล่านี้มาเพื่อทดสอบใจเราเพื่อให้เราเป็นคนที่ไว้วางใจได้และจะทำให้เราได้รู้จักตัวเราเองเมื่อต้องเผชิญบททดสอบจริงหลังจากที่เรายึดมั่นสัญญาพระเจ้าเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าเราจะเชื่อตามสัญญามากน้อยแค่ไหน จงอธิษฐานต่อพระบิดาด้วยสุดกำลังความหวังใจต่อไปและอย่าได้ให้ความสงสัย ก่อร่างได้อีกต่อไป แต่เป็นความเชื่อที่ทวีมากขึ้นและพระวิญญาณจะย้ำในจิตใจของเรา อธิษฐานด้วยความเชื่อวางใจต่อไปนี่คือวิถีการดำเนินชีวิตของลูกที่รักของพระบิดา อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ ฟีลิปปี 4:6 KJV https://bible.com/bible/175/php.4.6.KJV พระองค์ตรัสคำอุปมาเรื่องหนึ่งให้เขาฟังเพื่อสอนว่า คนทั้งหลายควรอธิษฐานอยู่เสมอ ไม่อ่อนระอาใจ ลูกา 18:1 KJV https://bible.com/bible/175/luk.18.1.KJV ข้าพเจ้ารักพระเยโฮวาห์เพราะพระองค์ทรงสดับเสียงและคำวิงวอนของข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงเงี่ยพระกรรณสดับข้าพเจ้า เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจะทูลพระองค์ตราบเท่าที่ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ เพลงสดุดี 116:1‭-‬2 KJV https://bible.com/bible/175/psa.116.1-2.KJV

ชีวิตเดโบราห์ ตอนที่ 2

ชีวิตเดโบราห์ (2) นางใช้คนไปเรียกบาราคบุตรอาบีโนอัม ให้มาจากเคเดชในนัฟทาลีและกล่าวแก่เขาว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลทรงบัญชาท่านว่า ‘จงไปรวบรวมพล 10,000 คน จากเผ่านัฟทาลีและเผ่าเศบูลุนไว้ที่ภูเขาทาโบร์ 7และเราจะชักนำสิเสราแม่ทัพของยาบินให้มาพบกับเจ้าที่แม่น้ำคีโชน พร้อมกับรถรบและกองทหารของเขา และเราจะมอบเขาไว้ในมือของเจ้า’ ” ผวฉ.4:6-7 เมื่อถึงเวลาของพระเจ้า พระองค์ก็ใช้เดโบราห์ให้เผยวจนะแก่อิสราเอลถึงการรวบรวมกำลังที่จะไปรบกับฝ่ายศัตรู และพระองค์สัญญาจะมอบศัตรูไว้ในมือของพวกเขาด้วย ถ้อยคำจากเดโบราห์ที่มาถึงอิสราเอลนั้นสามารถสร้างความเหิกเหิมได้อย่างมากมาย หลังจากที่ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ละทิ้งพระเจ้าและดำเนินชีวิตในบาปเพราะขาดผู้นำไปช่วงเวลาหนึ่ง พระเจ้ายังคงใช้ผู้เผยวจนะในการนำทิศทางของพระองค์ผ่านมาถึงประชากรของพระองค์ ปัจจุบัน เมื่อ พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้อยู่ในเราทุกคนที่เป็นผู้เชื่อแล้ว เราสามารถใช้ของประทานพระวิญญาณในการเสริมสร้างพระกายของพระองค์เพื่อทำให้พระกายได้บรรลุถึงพระราชกิจของพระองค์ได้อย่างบริบูรณ์ ของประทานการเผยวจนะ เป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างพระกาย ทั้งการเผยวจนะส่วนตัวหรือคริสตจักรเองก็ตาม พระกายก็จะได้รับพระพรอย่างมาก

ชีวิตของเดโบราห์ ตอนที่ 1

ชีวิตของเดโบราห์ ยังมีผู้เผยพระวจนะหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้วินิจฉัยคนอิสราเอลในเวลานั้น ชื่อเดโบราห์ ภรรยาของลัปปิโดท 5นางเคยนั่งอยู่ใต้ต้นอินทผลัมแห่งเดโบราห์ที่อยู่ระหว่างรามาห์และเบธเอลในแดนเทือกเขาเอฟราอิม และคนอิสราเอลก็ขึ้นมาหานางที่นั่น เพื่อให้ตัดสินคดี ผวฉ.4:4-6 พระเจ้ามักจะใช้คนที่ยอมให้พระองค์ใช้ในการทำพระราชกิจของพระองค์เสมอ เดโบราห์เป็นคนหนึ่งที่พระองค์ใช้ท่านเมื่ออิสราเอลได้หลงเจิ่นไปในความบาปชั่ว เดโบราห์ได้เป็นผู้เผยวจนะในช่วงเวลานั้นและคอยช่วยเหลือคนที่เข้ามาหานางเพื่อให้ช่วยตัดสินคดีให้ เมื่อพระเจ้าใช้ใคร พระองค์จะประทานของประทานพิเศษมาให้เพื่อทำให้งานของพระองค์ดำเนินต่อไป ดังตอนนี้ เดโบราห์เป็นผู้เผยวจนะ ซึ่งถูกเลือกอย่างเจาะจงจากพระเจ้า และในปัจจุบัน พระวจนะกล่าวถึงเรื่องของประทานการเผยวจนะด้วยเช่นกัน ซึ่งเราสามารถเรียนรู้และฝึกฝนในการใช้ของประทานนี้ได้ แม้บางคนพระเจ้าอาจจะไม่ได้ใช้พวกเขาให้มีของประทานนี้ แต่ทุกคนก็สามารถเรียนรู้ในการเผยวจนะได้ โดยให้เป็นไปตามพระวจนะ มากกว่านั้น เดโบราห์ยังมีความสามารถในการตัดสินคดีได้อีกด้วย ซึ่ง ใกล้เคียงกับการใช้ของประทานถ้อยคำประกอบด้วยความรู้ และถ้อยคำประกอบด้วยสติปัญญา ในพันธสัญญาใหม่ ดังนั้น เราในฐานะลูกที่รักและเป็นผู้ปรนนิบัติพระบิดา เราก็สามารถรับประสบการณ์อย่างที่เดโบราห์มีได้เช่นกัน