Intimacy with Him

เจ้าจะเห็นหน้าของเราไม่ได้ เพราะมนุษย์เห็นหน้าเราแล้วจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้

20พระองค์จึงตรัสว่า “เจ้าจะเห็นหน้าของเราไม่ได้ เพราะมนุษย์เห็นหน้าเราแล้วจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้” 21พระยาห์เวห์ตรัสอีกว่า “ดูสิ มีที่แห่งหนึ่งอยู่ใกล้เรา เจ้าจงไปยืนอยู่บนศิลานั้น 22แล้วขณะเมื่อพระสิริของเรากำลังผ่านไป เราจะซ่อนเจ้าไว้ในซอกหิน และจะบังเจ้าไว้ด้วยมือเราจนกว่าเราจะผ่านไป อพย 33 : 20-22 โมเสส เห็นพระสิริของพระเจ้า ที่ผ่านท่านไป เพราะไม่สามารถมองหน้าพระเจ้าได้ เพียงแค่การได้เห็นพระสิริผ่านไปนั้น ก็ทำให้ท่าน มีพระสิริพระเจ้าติดตัวท่าน จนท่านต้องเอาผ้ามาปิดหน้า เพราะพระสิริได้มาถึงชีวิตของท่านและต้วท่านก็ได้ทอแสงพระสิริของพระองค์ เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นเมื่อเราจะได้สัมผัสและเห็นพระสิริของพระองค์ทอแสงมาถึงชีวิตเรา เมื่อเรามีชีวิตที่แสวงหาพระเจ้า ใกล้ชิดพระองค์ นมัสการ อยู่ในการทรงสถิตของพระองค์ ยิ่งเราใช้เวลากับพระองค์ มาก เราก็จะสัมผัสพระทัยพระองค์ เมื่อเราได้นมัสการพระองค์ เราจะสัมผัสพระสิริของพระองค์ เราต้องเชื่อเช่นนั้น และมีประสบการณ์อย่างที่โมเสสได้มีประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นนี้

ขอทรงสำแดงพระสิริของพระองค์แก่ข้าพระองค์เถิด

18โมเสสจึงกราบทูลว่า “ขอทรงสำแดงพระสิริของพระองค์แก่ข้าพระองค์เถิด” 19พระองค์จึงตรัสตอบว่า “เราจะให้คุณความดีทั้งสิ้นของเราประจักษ์แจ้งต่อหน้าเจ้า และเราจะประกาศนามของยาห์เวห์ต่อหน้าเจ้า เราประสงค์จะโปรดปรานผู้ใดก็จะโปรดปรานผู้นั้น และเราประสงค์จะเมตตาผู้ใด เราก็จะเมตตาผู้นั้น” อพย 33 : 18-19 เป็นสิทธิ์ของพระเจ้าที่ให้แก่เรา คือที่พระองค์จะเมตตา หรือโปรดปรานผู้ใด พระองค์ก็จะให้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำเพียงอย่างเดียว พระองค์ดูท่าที และหัวใจภายใน ทำให้หลายครั้ง เราเห็นว่า คนที่เราคิดว่าไม่สมควรได้ แต่เขากลับได้ เป็นไปได้ว่าพระองค์เมตตาเขาคนนั้นอยู่ แน่นอนว่าการที่เราดำเนินตามพระทัยด้วยสุดหัวใจ นั่นเป็นสิ่งที่พระองค์โปรดปรานแน่นอน แม้่ว่าเรายังอ่อนแอและต้องต่อสู้กับความบาปอยู่ทุกวัน พระคุณพระเจ้าก็จะมาถึงเราอย่างแน่นอน การที่เราได้มีประสบการณ์ในพระสิริของพระองค์ เมื่อเราใช้เวลากับพระองค์ อธิษฐาน นมัสการพระองค์ จะทำให้เราเต็มอิ่ม เต็มล้นในฝ่ายวิญญาณอย่างมาก ทำให้เรามีกำลังและเรี่ยวแรงในการดำเนินชีวิตแต่ละวันต่อไปได้ เราต้องขอต่อพระองค์ ขอสำแดงพระสิริมาถึงเราทั้งหลาย

พระยาห์เวห์ตรัสตอบโมเสสว่า “สิ่งที่เจ้าขอนั้นเราจะทำให้ เพราะว่าเจ้าเป็นที่โปรดปรานในสายตาของเราแล้ว

16ทำอย่างไรใครๆ จะทราบได้ว่า ข้าพระองค์และประชากรของพระองค์เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์แล้ว นอกจากพระองค์จะเสด็จไปกับพวกข้าพระองค์ด้วยไม่ใช่หรือ? ดังนั้นข้าพระองค์และประชากรของพระองค์ จึงแตกต่างจากชนชาติอื่นๆ ทั่วโลก” 17พระยาห์เวห์ตรัสตอบโมเสสว่า “สิ่งที่เจ้าขอนั้นเราจะทำให้ เพราะว่าเจ้าเป็นที่โปรดปรานในสายตาของเราแล้ว และเรารู้จักชื่อของเจ้า” อพย 33 : 16-17 โมเสสวิงวอนต่อพระเจ้า เพื่อให้พระองค์อยู่ด้วยกันกับชนชาติอิสราเอล คำวิงวอนของท่าน พระเจ้าโปรดฟัง เพราะโมเสสเต็มใจที่ให้พระเจ้าได้นำ และใช้ชีวิต และท่านแสวงหา พึ่งพาพระองค์อยู่เสมอ และท่านได้พูดคุยกับพระเจ้า แบบสองต่อสอง พระเจ้าโปรดให้ท่านเป็นที่โปรดปรานในสายต่อของพระองค์ ชีวิตที่เป็นที่โปรดปรานพระเจ้านั้นมาจาก จิตวิญญาณที่กระหายหาพระองค์ แสวงหา และปรารถนาอยากจะอยู่ใกล้ชิดพระองค์อยู่เสมอ เพื่อความสนิทสนมที่มากและทวีขึ้น และเรารู้ได้ว่า ทุกสิ่งที่เราทำในนามของพระองค์ พระองค์จะโปรดเมตตาทำให้สำเร็จ เราต้องขอให้ชีวิตเราเป็นที่โปรดปรานเช่นนั้น ทุกๆ วัน