นิมิตที่พระเจ้าสำแดงแก่มนุษย์ครั้งแรก
นิมิตที่พระเจ้าได้สำแดงแก่มนุษย์ที่พบได้จากพระคัมภีร์ คือตอนที่พระยาเวห์ได้สำแดงนิมิตแก่อับราม ใน พระธรรม ปฐก 15 :1 นี่เป็นการสำแดงนิมิตครั้งแรกที่ได้มีการบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ ก่อนนี้พระองค์ก็สำแดงด้วยการสื่อสารกับมนุษย์เรื่อยมา แม้แต่อับรามเองที่พระองค์ได้พูดกับท่านเพื่อนำท่านออกมาแล้วไปยังดินแดนที่เป็นพระสัญญา
ในช่วงเวลานี้ พระองค์ได้มีการสำแดงที่แตกต่างออกไป โดยพระวจนะกล่าวว่า “ ภายหลังสิ่งเหล่านี้พระดำรัสของพระยาห์เวห์มาถึงอับรามทางนิมิตว่า “อับรามเอ๋ย เจ้าอย่ากลัวเลย เราเป็นโล่ของเจ้า บำเหน็จของเจ้าจะมากมายนัก” ” ปฐก 15:1
ถ้อยคำของพระองค์มาเป็นพระดำรัส เป็นคำพูด เป็นถ้อยคำ ได้มีมาถึงอับรามอย่างเจาะจง แต่ด้วยรูปแบบ ทางนิมิต ( ภาษาฮีบรู ใช้คำว่า machazeh ) ซึ่งคำนี้ มีปรากฏเพียงครั้งเดียวในพระคัมภีร์ เป็นไปได้ว่า นี่อาจเป็นรูปแบบการสำแดงที่พิเศษมากจริง ๆ สำหรับอับราม เพราะก่อนหน้านี้ ท่านเองก็เป็นเพียงคนเดียวที่ได้พบกับ เมลคีเซเดค ซึ่งเป็นมหาปุโรหิต ที่ยิ่งใหญ่สูงสุดของพระเจ้า ท่านได้ถวาย หนึ่งในสิบจากข้าวของทั้งหมดที่ได้จากการบชนะเหล่าศัตรูและได้ช่วยโลทออกมาได้ ชื่อ กษัตริย์ เมลคีเซเดค ซึ่งเป็นกษัตริย์เมืองซาเล็ม ( หรือเยรูซาเล็มในปัจจุบัน ) แม้แต่เชื้อสายของพระองค์ยังไม่ปรากฎในพระคัมภีร์แต่อย่างใด บางคนมองว่า พระองค์เป็น พระเยซูที่เสด็จมาช่วงเวลานั้น ด้วยซ้ำไป
คำว่านิมิตที่พระคัมภีร์ใช้ในตอนนี้ มีการใช้ที่ใกล้เคียงกัน และปรากฏ อยู่ในพระคัมภีร์ทั้งหมด 4 ตอน
ได้แก่
พระธรรมกันดารวิถี 24:4 “คำพยากรณ์ของคนที่ได้ยินพระวจนะของพระเจ้า ผู้ที่ได้เห็นนิมิตขององค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ผู้ที่ล้มลง แต่นัยน์ตากลับไม่ถูกบดบัง “
พระธรรมกันดารวิถี 24:16 “คำพยากรณ์ของผู้ที่ได้ยินพระวจนะของพระเจ้า และรู้ถึงพระปัญญาขององค์ผู้สูงสุด ผู้ที่ได้เห็นนิมิตขององค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ผู้ล้มลง แต่นัยน์ตากลับไม่ถูกบดบัง”
พระธรรมเอเศเคียล 13:7 “ พวกเจ้าเห็นนิมิตปลอมและคำทำนายเท็จไม่ใช่หรือ? ด้วยพวกเจ้ากล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้’ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้พูดเลย ”
นิมิต ( vision ) ในเหตุการณ์เหล่านี้ น่าจะหมายถึงการสำแดงเป็นภาพที่พระเจ้า ได้ทำให้มนุษย์ได้เห็น เป็นภาพในอนาคตที่เห็นได้ในเวลานั้น ด้วยสายตา และกำลังรู้ตัวอยู่ คือไม่ใช่นิมิตในความฝัน เพราะเมื่อได้ดูจาก พระธรรมปฐมกาล บทที่ 15 เราเห็นว่า อับรามได้พูดคุยกับพระยาเวห์ถึงเรื่องที่พระองค์สัญญาจะประทานทายาทให้กับอับราม ท่านคิดว่าทายาทของท่านคือ เอลีเอเซอร์ชาวเมืองดามัสกัส เพราะท่านและซาราห์ ต่างก็มีอายุมากแล้ว ท่านคิดว่า เป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะมีทายาทจากเชื้อสายท่านเอง แต่พระองค์ก็ได้ทำให้สำเร็จตามพระสัญญาที่ให้ไว้
พระเจ้าประทานพระสัญญาแก่อับรามทางนิมิต และเราเห็นในที่สุดว่าพระองค์ได้รักษาพระสัญญาของพระองค์ โดยการประทานบุตรชายแก่ท่าน การสำแดงในลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก และมักจะเป็นเหตุการณ์สำคัญต่อทิศทางชีวิตของผู้รับใช้พระเจ้า และอาจะไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นกับเราทุกคน พระองค์รู้จักเราเป็นอย่างดีและพระองค์มีวิธีการสำแดงของพระองค์แก่เรา และให้เรารู้ว่า เราเองก็สามารถมีประสบการณ์เช่นนี้ได้เช่นกัน ถ้าพระองค์มีพระทัยต่อทิศทางชีวิตในเรา
เราจึงเห็นได้ว่า พระเจ้าสามารถสำแดงที่ล้ำลึกให้แก่เราได้ อย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อเราเองได้ปรารถนาและหิวกระหายที่จะใกล้ชิดกับพระองค์ เราจะได้รับการสำแดงที่ยิ่งใหญ่ขึ้น และมากขึ้น เพราะนี่เป็นช่วงเวลาแห่งฤทธิ์อำนาจ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ดังนั้น เราต้องศึกษาพระวจนะอย่างเต็มที่และอธิษฐานอย่างหิวกระหายเพื่อเราจะได้รู้จักพระองค์มากยิ่งขึ้น และพระองค์จะสำแดงพระองค์แก่เราอย่างเจาะจง ถ้าเราหิวกระหายและปรารถนาเช่นนั้น เราก็จะได้พบกับการสำแดงจากพระองค์อย่างแน่นอน
photo credit : https://www.thingsofthesort.com/bible-studies/2019/2/5/genesis-14-abram-rescues-lot-and-is-blessed-by-melchizedek