Month: September 2019

จงฟังถ้อยคำของเรา ถ้าจะมีผู้พยากรณ์ท่ามกลางเจ้าทั้งหลาย

พระองค์ตรัสว่า “จงฟังถ้อยคำของเรา ถ้าจะมีผู้พยากรณ์ท่ามกลางเจ้าทั้งหลาย เราพระเยโฮวาห์จะสำแดงตัวแก่ผู้นั้นเป็นนิมิต เราจะพูดกับเขาทางฝัน 7สำหรับโมเสสผู้รับใช้ของเราก็ไม่เป็นเช่นนั้น ในวงศ์วานทั้งหมดของเราเขาสัตย์ซื่อ 8เราพูดกับเขาปากต่อปากอย่างชัดเจน ไม่พูดเร้นลับ และเขาเห็นสัณฐานของพระเยโฮวาห์ ไฉนเจ้าไม่กลัวที่จะพูดติโมเสสผู้รับใช้ของเรา” กดว 12:6-7 ความล้ำลึกของพระเจ้าก็เกินกว่าที่มนุษย์อย่างเราจะเข้าใจได้ และการสำแดงของพระองค์ก็เป็นสิทธิอำนาจของพระองค์แต่เพียงผู้เดียว เมื่อพระองค์จะสำแดงแก่เรา พระองค์มีหลากหลายวิธีในการสำแดงพระทัยของพระองค์ เช่น นิมิต หรือความฝัน นับว่าเป็นช่องทางหนึ่งที่พระองค์จะทำ สิ่งที่เราควรปรารถนาก็คือความสัมพันธ์สนิทแบบโมเสสกับพระเจ้า ที่พระองค์เองไม่ได้ปิดบังพระทัยที่พระองค์มีต่อโมเสสเลย เพราะท่านเป็นคนซื่อสัตย์ และพระองค์ได้สนทนาต่อท่าน สองต่อสอง และพูดต่อหน้าท่าน ปากต่อปากอย่างชัดเจน ยิ่งเราสัมพันธ์สนิทกับพระวิญญาณบริสุทธิ์เช่นนี้ การสำแดงของพระองค์ก็จะเกิดขึ้นเช่นเดียวกับที่พระองค์ได้สำแดงแก่โมเสสผู้รับใช้พระองค์เช่นเดียวกัน สรรเสริญพระเจ้า ชาโลม !

เราจะลงมาสนทนากับเจ้าที่นั่น และเราจะเอาจากวิญญาณที่มีอยู่บนเจ้ามาใส่บนคนเหล่านั้นด้วย

16พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงรวบรวมพวกผู้ใหญ่ในอิสราเอลให้เราเจ็ดสิบคน เป็นคนที่เจ้ารู้ว่าเป็นผู้ใหญ่ของประชาชนและเป็นเจ้าหน้าที่ของเขาทั้งหลาย จงพาพวกเขามาที่เต็นท์นัดพบและให้ยืนอยู่พร้อมกับเจ้าที่นั่น 17เราจะลงมาสนทนากับเจ้าที่นั่น และเราจะเอาจากวิญญาณที่มีอยู่บนเจ้ามาใส่บนคนเหล่านั้นด้วย และให้เขาทั้งหลายแบกภาระของประชาชนเหล่านี้ร่วมกับเจ้า เพื่อเจ้าจะไม่ต้องแบกคนเดียว กดว 11:16-17 โมเสสทูลวิงวอนพระเจ้าขอการช่วยกู้มาถึงท่าน เมื่อท่านโดนชนชาติอิสราเอลบ่นต่อว่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขา พระเจ้าได้ให้โมเสสนำผู้ใหญ่ เจ็ดสิบคน มาที่เต็นท์นัดพบ และพระองค์ได้ให้ท่านเหล่านั้น รับภาระใจร่วมกันกับโมเสสด้วย การปรนนิบัติพระเยซู ไม่ใช่การงานที่ทำเองเพียงคนเดียวได้ จำต้องพึ่งพาอาศัยกันและกันและเสริมสร้างพระกายของพระองค์ร่วมกัน พระราชกิจของพระบิดาเป็นงานที่มีเกียรติ และยิ่งใหญ่กว่างานใด ๆ บนโลกนี้ เมื่อเราขอกำลังและทิศทางจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราจะมีกำลังและเรี่ยวแรงในการเดินต่อไปได้ นี่เป็นพระคุณอันเลิศล้ำที่มาจากพระองค์

ไฟของพระเยโฮวาห์มาไหม้อยู่ท่ามกลางเขา

1เมื่อประชาชนบ่น พระเยโฮวาห์ทรงไม่พอพระทัย พระเยโฮวาห์ทรงสดับแล้วทรงพระพิโรธ มีไฟของพระเยโฮวาห์มาไหม้อยู่ท่ามกลางเขา เผาค่ายรอบนอกเสียบ้าง 2แล้วคนทั้งหลายจึงร้องต่อโมเสส และเมื่อโมเสสได้อธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์ ไฟก็ดับ กดว 11:1-2 พระบิดามีความอดทนนาน พระองค์ให้โอกาสแก่ลูก ๆ ของพระองค์อยู่เสมอ เราเห็นได้ว่าพระวจนะของพระองค์ แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่ง พระองค์ก็มีความโกรธอย่างชอบธรรม เช่นกัน หลายต่อหลายครั้งที่พระองค์มีหนทางช่วยกู้ชนชาติอิสราเอล จากความยากลำบาก จากศัตรูที่เข้ามา พวกเขากลับหลงลืมพระเมตตาคุณของพระองค์อย่างรวดเร็ว แม้กระนั้นเพียงคำอธิษฐานของผู้ชอบธรรมเพียงคนเดียวคือโมเสส พระองค์ก็ระงับโทสะในทันที จากไฟที่พระองค์เทลงมาจะเผาผลาญพวกเขา เราเอง ชอบธรรมโดยความเชื่อในพระเยซู คำอธิษฐานของเราจึงมีพลัง และฤทธิ์อำนาจเช่นกัน เราต้องรักษาความชอบธรรมเอาไว้ การอยู่ใกล้ชิดสนิทกับพระวิญญาณ รับการสัมผัสจิตวิญญาณ รับการสำแดงจากพระองค์อยู่เสมอ จะนำให้เราเข้าใจพระทัยของพระองค์มากยิ่งขึ้น