ดังนั้นข้าพเจ้าจึงพบว่ามีกฎธรรมดาอย่างหนึ่ง คือเมื่อไรที่ข้าพเจ้าตั้งใจจะทำความดี ก็มักจะเลือกทำชั่วซึ่งอยู่ใกล้ตัว

ข้าพเจ้าไม่เข้าใจการกระทำของข้าพเจ้าเอง เพราะว่าข้าพเจ้าไม่ทำสิ่งที่ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะทำ แต่กลับทำสิ่งที่ข้าพเจ้าเกลียดชังนั้น 16ถ้าข้าพเจ้าทำสิ่งที่ไม่ปรารถนาจะทำ ขณะที่ยอมรับว่าธรรมบัญญัตินั้นดี 17ข้าพเจ้าจึงไม่ใช่ผู้ทำ แต่ว่าบาปซึ่งอยู่ในตัวข้าพเจ้านั่นเองเป็นผู้ทำ 18ด้วยว่าในตัวข้าพเจ้า คือในเนื้อหนังของข้าพเจ้าไม่มีความดีใดอยู่เลย เพราะว่าเจตนาดีข้าพเจ้าก็มีอยู่ แต่การดีนั้นไม่สามารถทำได้เลย 19คือว่าการดีนั้นซึ่งข้าพเจ้าปรารถนาทำ ก็ไม่ได้ทำ แต่การชั่วซึ่งข้าพเจ้าไม่ปรารถนาทำ ก็ยังทำอยู่ 20ถ้าแม้ข้าพเจ้ายังทำสิ่งซึ่งไม่ปรารถนาจะทำ ก็ไม่ใช่ตัวข้าพเจ้าเป็นผู้ทำ แต่บาปซึ่งอยู่ในตัวข้าพเจ้านั่นเองเป็นผู้ทำ 21ดังนั้นข้าพเจ้าจึงพบว่ามีกฎธรรมดาอย่างหนึ่ง คือเมื่อไรที่ข้าพเจ้าตั้งใจจะทำความดี ก็มักจะเลือกทำชั่วซึ่งอยู่ใกล้ตัว โรม.7:15-21 ธรรมบัญญัติทำให้เราเห็นความบาป ที่เราอาจพลาดพลั้งล้มลงอยู่  ความบาปในตัวต่อสู้พระวิญญาณที่อยู่ภายในเราเสมอ เนือหนังจะคอยทำลายชีวิต และการเชื่อฟังพระวิญญาณ เราต้องขอให้พระวิญญาณปกคลุมชีวิตของเราไว้อยู่เสมอ หลายครั้ง ความตั้งใจอยากกระทำดี กลับถูกความบาปในตัว คอยครองงำและทำให้เราไม่สามารถทำดีได้ บาปจะคอยชักนำเนิ้อหนังให้ทำให้เราล้มลง เราต้องระวังระไวในการดำเนินชีวิตเสมอ ให้พระวิญญาณได้นำหน้าเสมอเพื่อเราจะไม่ถูกความบาปชั่ว ทำให้เราล้มลง