เราเห็นได้ว่าชีวิตคริสเตียนนั้นเป็นชีวิตที่ต้องเพิ่งพาในคำอธิษฐานอยู่เสมอ นั่นหมายความว่าชีวิตคริสเตียนกับการอธิษฐานไม่สามารถแยกออกจากกันได้
เราต้องตระหนักว่าการอธิษฐานเป็นความสำคัญและความจำเป็นของชีวิตฝ่ายวิญญาณของผู้เชื่อทุกคนเป็นอย่างยิ่ง เราเองจึงไม่ควรที่จะละเลยในการอธิษฐานในรูปแบบต่างๆ ที่พระวจนะของพระเจ้าได้กล่าวถึงด้วยเช่นกัน
การมีชีวิตอธิษฐานส่วนตัว ก็จะส่งผลถึงการทำงานทั้งในบรรยากาศฝ่ายวิญญาณรวมถึงการทำงานในฝ่ายกายภาพบนโลกใบนี้ด้วย ดังนั้นเอง การตระหนักในชีวิตการอธิษฐานส่วนตัว พี่อยากจะนำมาแบ่งปันให้ฟัง มีอย่างน้อย 3 ประการดังนี้
ประการที่แรก การอธิษฐานทำให้เราได้ใกล้ชิดพระเจ้า
อย่างที่เราทราบกันดีในพระธรรมยอห์นบทที่ 15 ว่าพระเยซูได้ยกตัวอย่าง ของเถาองุ่นเพื่อทำให้เราทั้งหลายได้เห็นความสัมพันธ์สนิทระหว่างเถาองุ่น แขนง และผลที่เกิดผล
พระธรรมยอห์นบทที่ 15 ข้อ 4 ถึงข้อ 5 ได้กล่าวไว้ว่า
จงเข้าสนิทอยู่ในเรา และเราเข้าสนิทอยู่ในถ้ำ แขนงจะออกผลเองไม่ได้นอกจากจะติดอยู่กับเถาฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้นอกจากจะเข้าสนิทอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่นท่านทั้งหลายเป็นแขนง ผู้ที่เข้าสนิทอยู่ในเราและเราเข้าสนิทอยู่ในเขา ผู้นั้นก็จะเกิดผลมาก เพราะถ้าแยกจากเราแล้วท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย
ดังนั้นการติดสนิทใกล้ชิดพระเจ้าทำให้เราเห็นถึงการอวยพรในการเกิดผลในด้านต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ การที่เรามีชีวิตแห่งการอธิษฐาน จึงเป็น ส่วนสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้า
พระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ที่อยู่ในเราทั้งหลายเป็นผู้ที่ความสนิทสนมภายในจิตวิญญาณของเรากับพระองค์ เพื่อทำให้เรานั้นได้ใกล้ชิดและรับการเปิดเผยสำแดงบางอย่าง ที่พระองค์ปรารถนาจะได้ สื่อสารกับเรา
การมีชีวิตแห่งการอธิษฐาน จึงเป็นความสำคัญที่จะทำให้เราได้ใกล้ชิดพระองค์มากขึ้นและมากขึ้น
และเมื่อเราได้ใกล้ชิดกับ พระองค์ผู้ที่สร้างเราแล้วเราก็จะเข้าใจสิ่งต่างๆที่พระองค์ปรารถนาอยากจะเปิดเผยแก่เราในแต่ละก้าวเดินของชีวิตของเรา
ประการที่สอง การอธิษฐานทำให้เราเข้าใจน้ำพระทัยพระเจ้า
เราเห็นได้ว่าพระเยซูได้วางแบบอย่างของคำอธิษฐานให้แก่เราทั้งหลายแล้ว เมื่อเราอยู่ในพระธรรมมัทธิวบทที่ 6 :10 ซึ่งกล่าวว่า
ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นอย่างนั้นในแผ่นดินโลก
พระเยซูเองก็สอนเรื่องคำอธิษฐานในเรื่องการให้ทุกสิ่งนั้นเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระบิดาผู้อยู่ในฟ้าสวรรค์และเราทั้งหลายเองก็ควรจะพัฒนาชีวิตฝ่ายวิญญาณในการอธิษฐานกับพระองค์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้พระองค์เองนั้นจะได้เปิดเผยน้ำพระทัยของพระองค์แก่ชีวิตของเราเป็นการส่วนตัว
เพราะว่าพระเจ้ามีน้ำพระทัยให้กับผู้เชื่อแต่ละคนแตกต่างกันไปตามทันความสามารถ รวมถึงของประทานฝ่ายวิญญาณที่พระองค์ได้มอบให้แก่ผู้เชื่อแต่ละคนเป็นการเจาะจง เพื่อเป็นการเสริมสร้าง พระกายขององค์พระเยซูคริสต์
ดังนั้นการตระหนักในการมีชีวิตแห่งการอธิษฐานจะทำให้เราเข้าใจน้ำพระทัยของพระองค์ ในชีวิตของเราอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ยิ่งเราเองได้อธิษฐานกับพระเจ้ามากแค่ไหนก็จะยิ่งช่วยทำให้ชีวิตของเราเองนั้นเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้าที่จะ เปิดเผยให้เราเห็นได้มากเท่านั้น
พระธรรมเอเฟซัสบทที่ 5 ข้อที่ 17
ได้กล่าวไว้ว่า เหตุฉะนั้นอย่าเป็นคนโง่เขาแต่จงเข้าใจน้ำพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นอย่างไร
พระวจนะตอนนี้เองได้ย้ำเน้นให้เราเข้าใจนะพระทัยของพระองค์ คำอธิษฐานของเรา
กับพระองค์ในแต่ละเวลาก็จะช่วยทำให้เราเข้าใจน้ำพระทัยของลงได้มากเท่านั้น
ประการที่สาม ผู้รับใช้พระเจ้ามีชีวิตแห่งการอธิษฐาน
หลังจากที่พระเยซูได้กลับไปสวรรค์แล้วและพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เข้ามาอยู่ในชีวิตของผู้เชื่อ
การขับเคลื่อนงานของพระเจ้าก็เริ่มทวีมากยิ่งขึ้น และในช่วงเวลานั้นเองอัครฑูตได้มีส่วนในการ ดูแลความจำเป็นของผู้เชื่อในการแจกอาหารในแต่ละวันซึ่งทำให้พวกท่านเองนั้นมิได้มีโอกาสในการใช้เวลาอธิษฐานและสั่งสอนพระวจนะพระเจ้าอย่างที่ควรจะเป็น
พระธรรมกิจการบทที่ 6 ข้อที่ 4
ได้กล่าวว่า “ฝ่ายพวกเราจากเขมรอธิษฐานและรับใช้พระเจ้าในพันธกิจแห่งพระวจนะเสมอไป ”
บรรดาอัครฑูตเองได้เลือกที่จะทำในสิ่งที่มีความจำเป็นและสำคัญในฝ่ายวิญญาณนั่นก็คือการใช้เวลาในการอธิษฐานและในการสั่งสอนพระวจนะของพระเจ้า
เราจึงเห็นได้ว่าผู้รับใช้ของพระเจ้าที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เป็นผู้ที่เจิมอยู่เหนือนั้นได้ให้ความสำคัญ กับงานอธิษฐานเป็นอย่างมาก
เราทั้งหลายเองก็ต้องขอบพระคุณพระเจ้าที่ในยุคของเรานั้นเป็นยุคที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้อยู่ในเราทุกๆคนเหมือนกัน เราเองจึงต้องตระหนัก ในชีวิตแห่งการอธิษฐานอยู่เสมอเพื่อให้งานของพระองค์ในชีวิตของเรานั้นจะถูกขับเคลื่อนไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และเพื่อเป็นการถวายเกียรติสูงสุดแด่พระเจ้าของเรา
ข้าพเจ้าขอหนุนน้ำใจให้พี่น้องได้ประยุกต์ใช้ในการตระหนักถึงชีวิตการอธิษฐานทั้งสามประการนี้
เพื่อเราเองจะสามารถสร้างชีวิตแห่งการอธิษฐานส่วนตัวได้อย่างสม่ำเสมอ และนำการเกิดผลมาถึงชีวิตของเราแต่ละคนอย่างเจาะจง
Photo by Carsten Stalljohann on Unsplash